เทคโนโลยี นวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ วิศวกรรม เกษตรศาสตร์ >>
ดิน
โครงงานตามพระราชดำริ
ดินกับการเจริญโตขึ้นของพืช
สิ่งที่พืชควรจะเป็นจากดิน ยกตัวอย่างเช่น ที่หยั่งรากเพื่อการพยุง ยึดต้น ตั้งตรง ก๊าซออกซิเจนให้รากขาดหายใจ น้ำและแร่ธาตุอาหารที่รากดูดเข้าไปใช้ สิ่งเหล่านี้มีอยู่ด้านในสมบัติต่าง ๆ ของดินในหน้าตาที่เกี่ยวพันกับการเจริญโตขึ้นของพืชด้วยเหตุดังกล่าว
ความลึกของดินที่รากหยั่งลึกได้ โดยปกติรากพืดูีอยู่หนาแน่นในดินผิงบนที่โปร่ง ร่วนซุย หรือดินที่มีก๊าซออกซิเจนมากพอต่อการขาดหายใจ มีรากเล็กน้อยที่แทรกตัวลึกเพื่อจะหาน้ำจากดินล่างที่อยู่ลึกลงไป จนกระทั่งลำดับชั้นหินพื้นหรือเหนือระดับน้ำใต้ดิน พืชล้มลุกต้นเล็กต้องการความลึกของดินเพียง 10–30 เซนติเมตร แต่ต้นไม้ใหญ่ต้องการมากยิ่งกว่า 5–20 เมตร (ในความจุดินลึก 20–30 เซนติเมตร) หากดินมีสภาวะสมควรต่อการแพร่กระจายและหยั่งลึกของรากพืช มีโอกาสได้อาหาร แร่ธาตุและน้ำมากยิ่งขึ้น พืชมีโอกาสเจริญโตขึ้นเพิ่มมากขึ้น ข้อจำกัดของการหยั่งรากลึกของพืชอยู่ที่จำนวนของก๊าซออกซิเจน ความอัดแน่นหรือแน่นทึบของลำดับชั้นแผ่นหิน เกรดดินดาน และอันดับน้ำใต้ดิน
เนื้อดิน หรือความหยาบ ความละเอียดของดิน เกี่ยวพันกับความพรุน (ขนาดของช่องว่างและความต่อเนื่องของช่อง) การอุ้มน้ำ การกักเก็บน้ำ การซึมซาบของน้ำ การถ่ายเทอากาศ การเคลื่อนที่ขึ้นลงของน้ำในดิน และจำนวนอาหารแร่ธาตุของดิน “ดินเนื้อหยาบ” (ดินหยาบ) ไร้อาหารแร่ธาตุ ไม่อุ้มน้ำ ไม่กักเก็บน้ำ น้ำซึมซาบอย่างรวดเร็วทันใจ อากาศถ่ายเทดี น้ำเขยื้อนหนีขาดหายได้เร็ว ก็เลยไม่สมควรต่อแนวทางการทำนา “ดินเนื้อขนาดเล็กๆ” (ดินเหนียวจัด) อุ้มน้ำดี กักเก็บน้ำได้ดี น้ำซึมซาบได้ช้า ถ่ายเทอากาศเลวทราม น้ำเคลื่อนขึ้นลงช้า จำนวนอาหารแร่ธาตุมักอุดมสมบูรณ์ ก็เลยไม่เหมาะสมต่อการปลูกไม้ผลในเขตที่มีฤดูแล้งยาวนาน และไม่มีน้ำชลประทานช่วยเสริม เนื้อดินที่พึงประสงค์คือ “ดินร่วน” ซึ่งอุ้มน้ำ การกักเก็บน้ำ การซึมซาบน้ำ การถ่ายเทอากาศ การเคลื่อนที่ขึ้นลงของน้ำและปริมาณของอาหาร แร่ธาตุในลำดับชั้นปานกลาง สมควรต่อการปลูกไม้ผลหรือพืชไร่ หรือ ทำนาข้าว
ปริมาณอนุภาคดินเหนียวและอินทรีย์วัตถุในดิน เกี่ยวพันกับเนื้อดิน โครงสร้างดินและความจุสำหรับในการหยิบอาหารแร่ธาตุประจุบวก ซึ่งเกี่ยวกับจำนวนอาหารแร่ธาตุในดิน ความเป็นกรด เป็นด่างของดิน ปริมาณอนุภาคดินเหนียวควรจะอยู่เวลา 10-30 % ถ้าต่ำกว่า 10 % ไม่เหมาะสมเหตุเพราะ น้ำเคลื่อนที่เร็วเกินไป อาหารแร่ธาตุต่ำ การเปลี่ยนแปลงเกรดความเป็นกรดรวดเร็ว หรือถ้าสูงขึ้นมากยิ่งกว่า 39 % ดินมีจังหวะระบายน้ำช้ามาก การถ่ายเทอากาศเลวทราม การเคลื่อนที่ขึ้นลงของน้ำช้าจนเกินความจำเป็นไถพรวนยาก ความเคลื่อนไหวสภาวะความชุ่มชื้นของดิน จากดินน้ำขังมาเป็นดินชื้นช้ามาก นำมาซึ่งการทำให้เปลี่ยนแปลงจำพวกพืชจากนาข้าวมาเป็นพืชไร่ สวนผัก-พืชสวนยืดยาดออกไปเสีย จังหวะปลูกพืชตามหลังข้าว
อันดับความเป็นกรด–ด่างของดิน (หรือ pH ของดิน) ระดับความเป็นกรด-ด่างที่สมควรต่อการดำรงชีพของสิ่งมีชีวิต ประมาณ 5.5 ถึง 6.5 ดินจะมีสภาพที่เหมาะสมต่อสัดส่วนของปริมาณอาหาร แร่ธาตุต่าง ๆ ในสารละลายดิน ถ้าค่า pH สูงหรือต่ำกว่านี้ สัดส่วนของธาตุบางธาตุผิดปกติไปคือ ธาตุหนึ่งคงมากจนเกินความจำเป็น ช่วงเดียวกันธาตุอื่นอาจจะบางส่วนเกินความจำเป็น
จำนวนอาหารแร่ธาตุต่างๆ ของดิน บริเวณรากหยั่งตลอดช่วงเวลาที่พืชเจริญเติบโต พืชควรจะเป็นใช้อาหารแร่ธาตุจำนวนหนึ่งตลอดเวลาตั้งแต่ต้นกล้าถึงต้นแก่ตายไป ปริมาณแต่ละธาตุไม่เท่ากันทุกธาตุแต่ละระหว่างการเจริญโตขึ้นก็ควรจะเป็นในสัดส่วนของธาตุที่ไม่เหมือนกัน ดินรอบๆรากหยั่งก็เลยควรจะมีธาตุอาหารในสารละลายดินครบในปริมาณมากเกินกว่าที่พืชต้องการจริง ๆ ตลอดระยะเวลา เพื่อที่จะให้พืชเลือกดูดกินเข้าไปใช้
ปริมาณสารพิษ (ต่อพืช) ในสารละลายดินหรือเครื่องมือหยั่งรากช่วงเวลาที่พืชกำลังเจริญเติบโตอยู่ สารพิษแต่ละจำพวกมีอัตราความเข้มข้น/จำนวนที่จะเป็นพิษต่อพืชแตกต่างกัน ข้อบังคับระบุการวิเคราะห์จากแบบอย่างดินเท่าที่มีรายงานและเป็นที่ยอมรับกันมีด้วยเหตุฉะนี้
Monetized by optAd360
จำนวนเกลือละลายได้ในน้ำในสารละลายดิน (ความเค็มของดิน) ใช้กฎค่า EC sat. ของดิน (ค่าการในไฟ้ฟ้าของน้ำที่สกัดมาจากดินที่อิ่มตัวด้วยน้ำ) หากเกิน 4.0 ds/m จัดเป็นดินเค็มที่มีจำนวนเกลือละลายได้มากพอที่จะละผลผลิตลงมาน้อยกว่า 50 % ของผลผลิตในดิน
ปริมาณเฟอรัสไอออน (Fe4+) ในสารละลายดินมากมายยิ่งกว่า 10 ต่อล้านส่วน (พืชไร, ดินชื้น) และมากกว่า 200 ต่อล้านส่วน (ข้าว, ดินน้ำขัง) เป็นอันตรายต่อพืชถึงตาย
ปริมาณอลูมินัมไอออน (Al3+) ในสารละลายดิน มากมายยิ่งกว่า 13 ต่อล้านส่วน หรือ 1 มิลลิกรัมสมมูลย์ต่อลิตร (พืชไร, ดินชื้น) และมากยิ่งกว่า 65 ต่อล้านส่วน หรือ 5 มิลลิกรัมสมมูลย์ต่อลิตร (ข้าว, ดินน้ำขัง) เป็นอันตรายต่อพืชถึงตาย
คลุมฟางข้าวทับหน้าดินเพื่อที่จะเก็บรักษาความชื้น ข้างในดินที่กำลังหมักอยู่
สูตรปรุงดินให้อุดมด้วยธาตุอาหาร
เริ่มจากการทำแปลงยกร่องเล็กๆ หรือก่ออิฐบล็อกสูงโดยประมาณหนึ่งคืบจากดิน สับดินหรือพรวนดินให้เป็นก้อนเล็กหรือละเอียด เเล้วโรยอินทรียวัตถุเป็นอันดับๆ ตามระดับเพราะเหตุนี้
ความชุ่มชื้นในดิน
อนุภาคดินและอินทรียวัตถุของดินสามารถอุ้มน้ำได้ดิบได้ดี
lucabetasia อาศัยแรงล่อใจ ยึดช่วงสารกับน้ำ มีรูปพรรณเป็นเยื่อของน้ำหุ้มโดยรอบ แรงเย้ายวนใจของอนุภาคดินกับน้ำลดลงเรื่อยๆ เมื่อความหนาของเยื่อเพิ่มขึ้น จนดินอิ่มตัวด้วยน้ำ แล้วปลดปล่อยน้ำออกมาด้วยแรงโน้มถ่วงของโลก