| 50 รับ 100 area slot |
|
|
|
อ้างอิง
อ่าน 74 ครั้ง / ตอบ 0 ครั้ง
|
vip
|
- รูปบ่งชี้ระยะทางเฉลี่ย ของดาวเคราะห์ชั้นเชิงนอก จากตะวัน โดยที่ Light Hours คือว่า ช่วงเวลาที่แสง เดินทางจากพระอาทิตย์ มาถึงดาวเคราะห์นั้น (หน่วยเป็นชั่วโมง) และ Astronomical Units หมายถึง ระยะทาง ในหน่วยนักแสดงศาสตร์ (AU)
ดาวเคราะห์ในระบบสุริยะแบ่งแยกออกเป็นหมู่ต่างๆ ได้ฉะนั้น
1. แยกแยะตามกายภาพ

ดาวเคราะห์อันดับใน (Inner or Terrestrial Planets): 50 รับ 100 area slot จะเป็นกลุ่มดาวเคราะห์ ที่อยู่ใกล้ตะวันมากยิ่งกว่าอีกกลุ่ม เป็นดาวเคราะห์ที่เย็นตัวแล้วมากกว่า ส่งผลให้มีผิวนอกเป็นของแข็ง เหมือนผิวโลกของเรา จึงเรียกว่า Terrestrial Planets (หมายถึง 'บนพื้นโลก') ตัวอย่างเช่น ดาวพุธ (Mercury), ดาววันศุกร์ (Venus), โลก (Earth) และดาวอังคาร (Mars) ซึ่งจะใช้แถบของ ดาวเคราะห์นิดหน่อย (Asteroid Belt) เป็นแถวแบ่ง
ดาวเคราะห์โลก (Earth)
โลก เป็นดาวเคราะห์ลำดับที่สามจากตะวัน และเป็นดาวเคราะห์เพียงหนึ่งเดียวแค่นั้นที่รู้ได้อย่างแน่ๆว่ามีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ โดยจากหลักฐานทางธรณีวิทยาบางส่วนชี้ว่า ส่วนประกอบของชีวิตอาจจะจับกำเนิดขึ้นมาเร็วสุดเมื่อ 4.1 พันล้านปีก่อน หรือราวๆ 400 ล้านปีหลังจากที่โลกได้ถือเกิด ซึ่งปัจจุบันสิ่งมีชีวิตทรงภูมิเชาวน์จากดาวเคราะห์ดวงนี้โดยส่วนมากจะเรียกตนเองว่า ‘มนุษย์’ และมีอยู่เป็นจำนวนมากถึง 7,000 ล้านชีวิต อีกทั่วทั้งโลกยังเป็นดาวเคราะห์ที่มีความหนาแน่นสูงสุดในระบบสุริยะอีกต่างหาก โดยมีเส้นผ่านจุดศูนย์กลางดาวประมาณ 13,000 กิโลเมตร
น้ำบนดาวเคราะห์อื่นหายไปไหนหมด
โลกเรามีระยะห่างกับตะวันอยู่ภายในระยะที่พอดิบพอดีกับการมีชีวิต ทั้งไกลพอที่จะไม่ร้อนเกิน และใกล้พอที่จะไม่หนาวเกิน ซึ่งเท่านี้ก็เพียงพอที่น้ำทั้งสามสถานะจะกำเนิดขึ้นพร้อมกันได้ และทั้งสามฐานะนี้เองที่ส่งผลให้เกิดวงรอบของน้ำบนโลก
ซึ่งในระหว่างที่น้ำบนโลกระเหยเปลี่ยนเป็นไอน้ำและลอยขึ้นสูง ไอน้ำกลับไม่สามารถที่จะหลุดลอยออกเข้าสู่อวกาศได้ เนื่องจากว่าลำดับขั้นบรรยากาศของโลกที่เย็นกว่าบนพื้นดิน มีผลให้ไอน้ำกลั่นตัวเป็นหยดน้ำ และโดนแรงเย้ายวนใจของโลกดึงเม็ดฝนกลับลงมาบนพื้นโลกสุดท้าย แต่เพื่อดาวอังคารกลับไม่โชคดีอย่างนั้น
|
| |
vip [223.24.93.xxx] เมื่อ 10/07/2022 15:08
|