ผู้ร่วมทีมวิจัย

ผู้ร่วมกลุ่มวิจัยจากสถาบันระดับปริญญาโกรนิงเงินของเนเธอร์แลนด์ชี้ว่า การเคลื่อนของดวงดาวอย่างผิดปกติดังที่กล่าวมาข้างต้น แม้จะไม่กระจ่างจนสามารถพินิจปรากฏได้ง่ายๆ แต่ก็เป็นร่องรอยของเหตุการณ์ร้อนแรงในเมื่อก่อนนี้ที่กาแล็กซีทางช้างเผือกได้เจอมา ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าเป็นผลมาจากการเฉียดผ่านของวัตถุอวกาศที่มีแรงโน้มถ่วงอันทรงพลังพอเหมาะสม จนเกิดการก่อกวนวิถีการเขยื้อนของดวงดาวขึ้น แม้จะไม่ได้ชนปะทะกันโดยดิ่งก็ตาม

'เรื่องราวที่เป็นไปได้มากที่สุด คือการโคจรเฉียดผ่านครั้ง สล็อต66 สุดท้ายของซุปเปอร์สตาร์จักรแคระซาจิตแทเรียส (Sagittarius)เมื่อราวกับ 200-1,000 ล้านปีก่อน และในขณะที่นี้คนที่ทำงานในวงการบันเทิงจักรแคระดังที่กล่าวมาแล้วก็กำลังถูกกาแล็กซีทางช้างเผือกดูดกลืนให้เข้ามารวมเป็นนักแสดงจักรเดียวกันอยู่' ศ. เฮลมีกล่าว


ล่าสุดนักซุปตาศาสตร์มั่นใจว่าเอกภพประกอบด้วยกาแล็กซี่ถึง หนึ่งแสนล้านกาแล็กซี่ โดยกาแล็กซี่แมกเจนแลนใหญ่อยู่ใกล้กาแล็กซี่ทางช้างเผือกของพวกเราจำนวนเยอะที่สุด ด้วยระยะทางที่แสงใช้ระยะทางในการสัญจรถึง 170,000 ปี

เอกภพทั้งสิ้นจับกำเนิดขึ้นมาได้เช่นไรเป็นคำถามที่นักซุปตาศาสตร์พยายามสืบค้นหาผลลัพธ์มาเนิ่นช้านานแล้ว เดี๋ยวนี้คำอธิบายที่ได้รับการยอมรับเยอะที่สุดคือ แนวความคิดบิ๊กแบง



ทฤษฎีบิ๊กแบงระบุว่าการระเบิดครั้งยิ่งใหญ่เมื่อโดยประมาณ 15,000 ล้านปีก่อนฯลฯกำเนิดของเอกภพและสรรพสิ่งทั้งหมดทั้งมวล หลังการระเบิดเอกภพขยายตัวออกทุกทิศทางพร้อมด้วยอุณหภูมิที่ค่อยๆ น้อยลง เมื่อเวลาผ่านไปนับล้านปีหมู่อนุภาคเล่นอิเล็กตรอนและโปรตรอนเริ่มต้นประสมประสานเป็นกาแล็กซี่ต่อมาฝุ่นด้านในกาแล็กซี่จึงรวมตัวกับแก๊สไฮโดรเจนและฮีเลียมกำเนิดเป็นดาวฤกษ์ซึ่งเปล่งแสงได้จากปฏิกิริยานิวเคลียร์ที่เกิดขึ้นด้านในนับเป็นณ เวลาหลายพันปีในอดีตสมัยกาลที่มนุษยชาติไม่เคยรับรู้มาก่อนว่ามีสิ่งที่เรียกว่า ระบบสุริยะ แต่เดิมมนุษย์นั้นมั่นใจว่า โลกเป็นใจกลางจักรวาลที่อยู่นิ่ง มีดวงดาวต่าง ๆ โคจรไปรอบ ๆ ผ่านไปบนท้องฟ้า แม้ว่านักซุปเปอร์สตาร์ศาสตร์และนักเลขคณิตชาวอินเดียชื่อเรื่อง อารยภัฏ (สันสกฤต: आर्यभट) และนักปรัชญาชาวกรีก แอริสตาร์คัส (กรีก: Ἀρίσταρχος ὁ Σάμιος) เคยมีแนวความคิดเกี่ยวกับการที่ดวงตะวันเป็นศูนย์กลางจักรวาล


 และจัดลำดับจักรวาลเสียใหม่ แต่ผู้ที่สามารถคิดค้นหาแบบจำลองทางคณิตเพื่อที่จะพิสูจน์แนวคิดนี้ได้สำเร็จเป็นคนแรกคือ นิโคเลาส์ โคเปอร์นิคัส ในคริสต์ศตวรรษที่ 17 มีผู้สืบทอดวิธีการทำความเข้าใจของเขาถัดจากนั้น คือกาลิเลโอ กาลิเลอี โยฮันเนิส เค็พเพลอร์ และ ไอแซค นิวตัน หมวดหมู่เขามานะทำความรู้ความเข้าใจระบบทางฟิสิกส์และเสาะหาหลักฐานการพิสูจน์รับรองว่า โลกเคลื่อนไปรอบ ๆ ดวงตะวัน และดาวเคราะห์ทั้งหลายๆต่างก็ดำเนินไปภายใต้กฎที่ต้องปฏิบัติทางฟิสิกส์เหมือนกันนี้ ในยุคข้างหลังหลังจากนั้นก็เลยเริ่มมีการสอบปากคำค้นหาหาแสดงตัวการณ์ทางภูมิธรณีต่าง ๆ ตัวอย่างเช่น ภูเขา แอ่งหิน ปรากฏการณ์สภาพภูมิอากาศที่แปรเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล การเรียนรู้เกี่ยวกับเมฆ พายุทราย และยอดเขาน้ำแข็งบนดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆ