| รีวิว Thor: Love and Thunder ธอร์ ด้วยรักและอัสนี |
|
|
|
อ้างอิง
อ่าน 71 ครั้ง / ตอบ 0 ครั้ง
|
lovedog
|

มาแล้วจ้า รีวิว Thor : Love And Thunder ซึ่งบอกเลยว่า Inzpy ตัวจริงจะต้องเดย์วันได้แก่เดิม เรียกว่า หนังเข้าปุ๊ปรีบกดบัตรผ่านบัตรเครดิตปั๊ป พาน้อง ๆ ในออฟฟิศไปดูแบบพร้อมเพียง เพราะเหตุว่าไม่ต้องการจะให้ผู้ใดจึงควรมาพลาดหนังดี ๆ แบบนี้เด็ดเดี่ยว โดยครั้งก่อนเราเคยลงถึงบทวิเคราะห์สั้น ๆ ของนักวิจารณ์ต่างประเทศแล้ว วันนี้พวกเรานี่แหละจะรีวิว!
รีวิว Thor: Love and Thunder ธอร์ ด้วยรักและอัสนี (มีสปอยล์) อีกหน้าหนึ่งของสถานะการณ์ชีวิตเทพเจ้าสายฟ้า “ธอร์ โอดินสัน” ที่โชคชะตา (ผู้กำกับ) ไม่ประนีประนอมให้ความเศร้าจากการสูญเสียมาแทรกอารมณ์โอกาสโบ๊ะบ๊ะของภาพยนตร์เลยแม้แต่วินาทีเดียว พร้อมด้วย End Credit 2 ตัว ที่โบ๊ะบ๊ะไม่แพ้กัน และเหล่าแก๊งพิทักษ์จักรวาลที่มาเข้าร่วมแจมเป็นสีสันให้กับหนัง ทั้ง ๆ ที่พวกเราตื่นเต้นไปกับแบบอย่างหนังหมดแล้ว
ปลดปล่อยออกมาแบบไร้กั๊ก ด้วยความสามารถการกำกับจากผู้กำกับคนดีคนเดิม “ไทกา ไวทิทิ” (Taika Waititi) ที่เคยนั่งแท่นกำกับ Thor Ragnarok มาก่อนหน้าที่ผ่านมาและการันตีการบรรลุเป้าหมายด้วยยอดรายรับจากการเข้าชมรูปยนตร์มหาศาล ครั้งนี้จะพาเหล่าผู้ดูและแฟนมาร์เวลทั้งหลากหลายร่วมสัญจรไปหาจุดหมายของชีวิต ภายหลังที่ธอร์ควรต้องสูญเสียเกือบจะทุกอย่างทั้งหมดทุกอย่างในเรื่องราวล้างบางจักรวาล Avengers: Endgame
ในขณะเพื่อจะนเข้าร่วมรุ่นอย่าง Iron Man และ Captain America ประกาศจบการเล่าเรียนกันไปแล้ว ด้วยการมีหนังเดี่ยวคนละ 3 ภาค แต่ Thor เปลี่ยนเป็นซูเปอร์ฮีโร่คนแรกในจักรวาลมาร์เวล ที่มีหนังของตัวเองเป็นภาคที่ 4 ได้ ด้วยหลายปัจจัย ทั้งในทางของนักแสดงที่ยังสามารถเล่าในแง่มุมต่างๆได้อีกเพียบ ความเป็นเทพ การสัญจรข้ามจักรวาล ส่งผลให้เหตุการณ์ของ Thor
ถูกเปิดกว้างขวางยิ่งกว่า รวมถึงปมที่เกี่ยวกับนักแสดงแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งอย่างมาก เจน ฟอสเตอร์ อดีตสมัยแฟนสาวของเขา ที่ถูกทิ้งไปดื้อๆข้างหลังจบภาค 2 นำมาซึ่งการทำให้นี่คงอาจจะเป็นจังหวะที่จะมาสานต่อเหตุการณ์ให้บริบูรณ์ รวมถึงความสำเร็จของหนังภาคก่อนอย่างThor : Ragnarok ที่ผู้กำกับ ไทก้า ไวติติ เข้ามาปรับ Mood & Tone ทำให้หนังรื้นเริงขึ้นและฉูดฉาดขึ้น จึงน่าเสียดายที่หนังของ Thor จะจบแค่ไตรภาคแรกเพียงแค่นั้น ทั้งๆที่มันยังมีโอกาสไปต่อได้
Thor: Love and Thunder รูปยนตร์ภาคที่ 4 ของนักแสดงหนึ่งเดียวในแก๊ง Big Three ของ Avengers ที่ได้ไปต่อหลังจากสมาชิกอีกสองคนอย่าง Iron Man และ Captain America ได้ปิดตำนานลงไปแล้ว สำหรับ Thor: Love and Thunder เกิดเรื่องเหมือนกับของ Thor เทพเจ้าสายฟ้าที่ข้างหลังจบศึกใน Avengers Endgame ก็ได้ออกเดินทางป้องกันจักรวาลกับเหล่า Guardians of the Galaxy พร้อมๆ กับการค้นหาตัวตน ความสงบสุข และลดความอ้วน โดยรายละเอียดจำนวนมากของเรื่องนั้นก็จะจุดโฟกัสไปในแนวทางของความ ขบขันเฮฮา ตามสไตล์ของ ผกก. ไทก้า ไวทีที (Taika Waititi) ที่ได้เปลี่ยนให้เทพสุดหล่อเท่มาเป็นเทพสายฮา ตั้งแต่ภาค Ragnarok
ภายหลังได้ยินเสียงตอบรับในทำนองชื่นชม ต่อภาพยนตร์ประเด็นนี้หนาหู เจือกับซื้อบัตรล่วงหน้าไว้ใบนึง เมื่อหนังเข้าฉาย ก็จำเป็นจะต้องตามไปดูจนได้ ‘Thor’ หรือ ‘ธอร์ เทพเจ้าสายฟ้า’ ก็เลยได้เป็นรูปยนตร์เรื่องล่าที่ข้าพเจ้า นายแพท จ่ายเงินเข้าไปดูในโรงมาในวันนี้
ผมสัญจรจากบ้านด้วยรถไฟฟ้า มุ่งหน้าสู่โรงภาพยนตร์อลังการ Paragon Cineplex เจ้าเก่าเจ้าเดิม ตามที่มีความรู้สึกว่าจะดูโรงปกติ ไปๆ มาๆ ผู้ซื้อตั๋วกันเยอะจนจำเป็นจะต้องหลีกไปดูในโรง Digital 3D แทน เอาน่า มีราคาที่สูงหน่อย แต่ก็ได้เหมือนกันลองพยายามดูกับแว่นตา 3 มิติก็แล้วกัน…
หนังจากหนังสือการ์ตูนในเครือมาร์เวลส่วนมากจะมีแต่ซูเปอร์ฮีโร่ แต่ครั้งนี้ ธอร์ชมเป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่ไม่เหมือนกันกับคนอื่น เพราะเหตุว่าเขาชมเป็นบุตรของเทพเจ้า สถานะการณ์มันก็เลยชมเป็นหนังแฟนตาซีกึ่งเทพนิยายเสียมากยิ่งกว่า จนดูงงๆ ว่า ถ้าเอามารวมกันเป็นทีม ‘The Avengers’ มันจะลักลั่นเกินความจำเป็นไหม
|
| |
|